การคำนวณกำไรหรือขาดทุนจากการขายคริปโตคงจะไม่มีความซับซ้อนอะไรหากว่าเรามีการซื้อคริปโตนั้นมาในครั้งเดียว เราก็สามารถจะใช้ต้นทุนนั้นมาคำนวณกำไรหรือขาดทุนในการขายแต่ละครั้งได้เลย หรือว่าซื้อมาหลายๆ ครั้ง แต่ขายออกไปทั้งหมดในคราวเดียว ก็สามารถที่จะนำต้นทุนรวมที่จ่ายไปในการซื้อทั้งหมดมาคำนวณได้โดยง่ายเช่นกัน
แต่ถ้าหากเราซื้อคริปโตนั้น มาหลายๆ ครั้ง แล้วขายออกไปบางส่วนหละ ต้นทุนของส่วนที่ขายจะคำนวณอย่างไร ?
การคำนวณต้นทุนของคริปโตนั้นจะต้องคำนวณแยกในแต่ละเหรียญ ซึ่งสามารถทำได้สองวิธี ดังนี้
1. วิธีเข้าก่อน – ออกก่อน (First in – First out)
2. วิธีถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving average)
1) วิธีเข้าก่อน – ออกก่อน (First in – First out) คือคริปโตที่ซื้อเข้ามาก่อน จะถูกขายออกไปก่อนตามลำดับ ตัวอย่างเช่น
วันที่ | รายการ | จำนวนเหรียญ | ราคาต่อเหรียญ (บาท) | มูลค่ารวม |
1 | ซื้อเหรียญ A | 10 | 100 | 1,000 |
2 | ซื้อเหรียญ A | 20 | 150 | 3,000 |
3 | ซื้อเหรียญ A | 15 | 200 | 3,000 |
4 | ขายเหรียญ A | 30 | 400 | 12,000 |
ต้นทุนของเหรียญ A ที่ขาย 30 เหรียญ จะเท่ากับ 4,000 บาท ซึ่งประกอบด้วยรายการซื้อวันที่ 1 และวันที่ 2
วันที่ | รายการ | จำนวนเหรียญ | ราคาต่อเหรียญ (บาท) | มูลค่ารวม |
1 | ซื้อเหรียญ A | 10 | 100 | 1,000 |
2 | ซื้อเหรียญ A | 20 | 150 | 3,000 |
ดังนั้นผลกำไรจากการขายเหรียญจะเท่ากับ 8,000 บาท (12,000-4,000)
สำหรับต้นทุนของเหรียญ A ที่คงเหลือ 15 เหรียญจะเท่ากับ 3,000 บาท
ข้อดีของการคำนวณต้นทุนแบบ FIFO จะทำให้เราทราบถึงอัตราผลตอบแทน (ROI) ที่แท้จริงสำหรับเงินลงทุนก้อนนั้นๆ เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว
2) วิธีถัวเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving average) คือต้นทุนต่อหน่วยของคริปโตจะถูกถัวเฉลี่ยในทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหว ตัวอย่างเช่น
วันที่ | รายการ | จำนวนเหรียญ | ราคาต่อเหรียญ (บาท) | มูลค่ารวม | ต้นทุนเฉลี่ยต่อหน่วย |
1 | ซื้อเหรียญ A | 10 | 100 | 1,000 | 100 |
2 | ซื้อเหรียญ A | 20 | 150 | 3,000 | 133.33* |
3 | ซื้อเหรียญ A | 15 | 200 | 3,000 | 155.56** |
4 | ขายเหรียญ A | 30 | 400 | 12,000 | 155.56 |
**155.56 = (1,000+3,000+3,000) / (10+20+15)
ต้นทุนของเหรียญที่ขาย 30 เหรียญ จะเท่ากับ 4,666.80 บาท (155.56 x 30)
ดังนั้นกำไรจากการขายเหรียญในวันที่ 4 จะเท่ากับ 7,333.20 บาท (12,000 – 4,666.80)
สำหรับต้นทุนของเหรียญ A ที่คงเหลือ 15 เหรียญ จะเท่ากับ 2,333.40 บาท (15×155.56)
การคำนวณต้นทุนแบบ Moving average จะเหมาะกับการลงทุนระยะสั้น และการลงทุนแบบ DCA กำไรหรือขาดทุนมีการถั่วเฉลี่ยตามหน่วยการลงทุน
เราสามารถเลือกคำนวณต้นทุนวิธีใดวิธีหนึ่งในการคำนวณกำไรหรือขาดทุนจากการขายคริปโตในปีภาษีนั้นๆ ได้แต่ไม่สามารถใช้ทั้งสองวิธีในปีภาษีเดียวกันได้ แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่จะตัดสินใจเลือกว่าวิธีไหนดีกว่า เราจะต้องทดสอบการคำนวณ ทั้งสองวิธีและเปรียบเทียบว่าวิธีใดให้ประโยชน์สูงสุดทางด้านภาษี
#คริปโทเคอร์เรนซี #ภาษีคริปโต #Cryptotax #กำไรจากการขายคริปโต #บิทคับ